เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก : หูเซียน 狐仙 จากเขาหลงหู่ซาน ต้นกำเนิดศาสนาเต๋า
เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก หรือ หูเซียน 狐仙 คือเทพนารีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเซียนโดยปรมาจารย์จางเทียนซือรุ่นที่ 30 และเป็นธรรมบาลขององค์เทียนซือ ศาลเจ้าเซียนจิ้งจอก 狐仙堂 ประดิษฐานภายในอารามเทียนซือเขาหลงหู่ซาน ท่านได้รับการบูชามาอย่างยาวนาน หูเซียนเป็นจิ้งจอกที่ผ่านการฝึกฝนบำเพ็ญเพียรจนกลายเป็นเซียน ซึ่งคำว่า “เซียน” ในวัฒนธรรมจีนหมายถึงสิ่งมีชีวิตที่มีพลังอำนาจและอายุยืนยาวจนเหนือธรรมชาติ จิ้งจอกในตำนานจีนเป็นสัญลักษณ์ของความเฉลียวฉลาด ความมีเสน่ห์ และพลังลึกลับ ท่านยังเป็นเทพีผู้พิทักษ์ทรัพย์สินเงินทอง ขอลาภลอย กวักทรัพย์เรียกเงิน เลื่อนยศและตำแหน่งหน้าที่การงาน ปัจจุบันมีศาลเจ้าแม่เซียนจิ้งจอก ที่อารามไท่เสวียนก้วน มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม ใกล้วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
บทความ เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก จาก มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม
เซียนจิ้งจอก 靈狐大仙 “หลิงหูต้าเซียน” เป็นเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงในการขอพรเรื่องดวงความรัก ชีวิตคู่และเรื่องขอลาภลอยเสี่ยงโชค โดยท่านอาจารย์อวี๋โหลซานได้อัญเชิญผงธูปมาจากศาลเจ้าต้นกำเนิดเขาหลงหู่ซาน สำนักเทียนซือฝู่เมื่อปี 2020 นำมาประดิษฐานไว้ ณ อารามไท่เสวียนก้วนชั้นหนึ่ง ตำหนักด้านข้าง
เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก มีวันเทวะสมภพทุกวันที่ 26 เดือน 3 ตามมปฏิทินจันทรคติจีน ท่านสาธุชนสามารถเข้ากราบไหว้สักการะบูชา เจ้าแม่เซียนจิ้งจอกได้ที่ อารามเต๋าไท่เสวียนก้วน มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม ผู้คนนิยมนำของโปรดของเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกมาถวาย อาทิเช่น ขนมไดฟุกุ ขนมเหนียว ไข่ไก่ดิบ เหล้าไวน์ และชุดเครื่องสำอางค์ หลังบูชาแล้วสามารถนำของไหว้บูชากลับเพื่อเป็นมงคล สำหรับไข่ดินนิยมถวายไว้ที่อาราม โดยอารามจำทำการส่งมอบไข่ไก่ต่อให้แก่มูลนิธิเด็กหรือมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อเป็นกุศลกับสาธารณะ
ตำนานเซียนจิ้งจอก 狐仙傳說
วิญญาณจิ้งจอก ไม่ใช่เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก
ในศาสนาเต๋า เราเชื่อว่าจักรวาลแบ่งออกเป็นสองทวิภาวะ ซึ่งก็คือพลัง “อิน” และพลัง “หยาง” ทั้งสองพลังนี้เป็นรากฐานของการดำรงอยู่ของทุกสรรพสิ่ง พลัง “อิน” และ “หยาง” ไม่ได้เป็นเพียงสองขั้วตรงข้าม แต่เป็นพลังที่ทำงานร่วมกันอย่างสมดุล การที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดจะมีชีวิตหรือสามารถเติบโตขึ้นได้ จะต้องอาศัยการทำงานของทั้งสองพลังนี้
พลัง “อิน” แทนความนิ่งสงบ ความเย็น ความมืด และพลังของผู้หญิง มันเป็นสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในและไม่เปิดเผยตัว มักถูกเชื่อมโยงกับความลึกลับและความเป็นปรัชญา พลังอินสื่อถึงความอ่อนโยนและการยอมรับ มันเป็นพลังที่ดึงดูดเข้าสู่ภายใน สื่อถึงการเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่เงียบสงบ เช่น ความมืดแห่งราตรีที่ลึกลับ พระจันทร์ที่ส่องสว่างแผ่วเบาในท้องฟ้า และฤดูหนาวที่เยือกเย็น สัญลักษณ์ของอินคือพระจันทร์ที่คอยส่องทางยามค่ำคืน พลังอินไม่ใช่เพียงความมืด แต่เป็นความเย็นและการพักผ่อน เป็นที่พึ่งของพลังแห่งการสร้างชีวิต
พลัง “หยาง” เป็นพลังแห่งความกระตือรือร้น ความสว่าง ความร้อน และความแข็งแรงของผู้ชาย หยางเป็นพลังที่กระจายออกไปอย่างชัดเจนและมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ มันสื่อถึงการกระทำ การแข่งขัน และการสร้างสรรค์ พลังหยางเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้าในท้องฟ้า สัญลักษณ์ของหยางคือพระอาทิตย์ที่เต็มไปด้วยพลังงานที่สร้างสรรค์ หยางยังแสดงถึงความอบอุ่นและความแรงกล้า เป็นพลังที่ดึงดูดและแสดงออกภายนอก เป็นการเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่น พลังหยางเป็นพลังแห่งการเกิดใหม่ การสร้าง และความบริสุทธิ์
แม้ “อิน” และ “หยาง” จะมีคุณสมบัติที่ดูแตกต่าง แต่ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน การมีอยู่ของอินนั้นทำให้หยางมีคุณค่า และการปรากฏของหยางก็ทำให้อินมีความหมาย ไม่มีพลังใดที่ดำรงอยู่ได้โดยลำพัง เมื่ออินถึงจุดสูงสุด มันจะเปลี่ยนเป็นหยาง และเมื่อหยางเข้มข้นถึงที่สุด มันจะกลับกลายเป็นอิน ทั้งสองอยู่ในกระแสการเปลี่ยนแปลงและทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมดุลให้กับโลกและจักรวาล
ดังนั้น ความสัมพันธ์ของ “อิน” และ “หยาง” จึงเป็นความสมดุลแห่งชีวิตและการดำรงอยู่ของทุกสรรพสิ่ง ความสมดุลนี้คือแก่นของจักรวาล ที่เราในฐานะมนุษย์ต้องพยายามเรียนรู้และรักษาให้คงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
เราเชื่อว่า “จิ้งจอก” เป็นสัตว์พลังหยิน ซึ่งบำเพ็ญวิถีเต๋า รับพลังหยางจากแสงอาทิตย์และพลังอินจากพระจันทร์จนค่อย ๆ บรรลุเป็นวิญญาณจิ้งจอกที่มีฤทธิ์และอาคมอันแก่กล้า
เรื่องเล่าประวัติวิญญาณจิ้งจอก
จิ้งจอกที่บำเพ็ญเพียรทางศาสนาเต๋า หากบำเพ็ญได้ครบอายุ 50 ปี จะแปลงกายเป็นมนุษย์ผู้หญิงได้ และเมื่อบำเพ็ญครบ 100 ปี จะสามารถบำเพ็ญจนเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสดสวยงดงามและสามารถใช้เวทย์มนต์คาถาได้ และเมื่อจิ้งจอกสามารถบำเพ็ญเพียรได้ถึง 1000 ปี จะสามารถติดต่อกับสวรรค์และกลายร่างเป็นจิ้งจอกสวรรค์ จิ้งจอกที่รู้จักกันทั่วโลกมักจะเป็นวิญญาณจิ้งจอกที่สร้างความเดือดร้อนเนื่องจาก การเลื่อนขั้นของวิญญาณจิ้งจอกที่มีสภาพ “อิน” ย่อมต้องการพลัง “หยาง”มาช่วยเสริมพลังให้รักษาความเป็นสาวและดูดพลังชีวิตเพื่อให้มีตบะอาคมที่แกร่งกล้าขึ้น จิ้งจอกในความจริงมีทั้งเพศหญิงและชาย แต่จิ้งจอกที่โด่งดังมากที่สุดเห็นจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง มีเรื่องเล่าว่าที่ประเทศจีนมีวัดพระโพธิสัตว์กวนอิมที่มีแท่นบูชาจิ้งจอกอยู่ด้านหน้าพระโพธิสัตว์ จิ้งจอกนั้นไม่ได้บูชาช่วยเหลือแต่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนในวัด จนกระทั่งต้องเชิญอาจารย์มาทำพิธีขับไล่ปีศาจจิ้งจอกจนทำให้ปีศาจจิ้งจอกบาดเจ็บที่ดวงตาและหนีจากไป
เรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางได้กำเนิดขึ้นในยุคปลายราชวงศ์ซาง โจ้วหวางกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ ซึ่งในพงศาวดารให้ข้อมูลว่าโจ้วหวางมีพละกำลังและกล้าหาญ สามารถต่อสู้กับสิงโตและเสือด้วยมือเปล่า สามารถนำกองทัพออกรบจนได้รับชัยชนะมากมาย นอกจากนี้โจ้วหวางก็ยังมีความสามารถในการโต้เถียงความรู้กับเหล่าบัณฑิตให้จำนวนได้ ในตอนแรกท่านเป็นบุคคลที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ แต่เนื่องจากท่านได้ล่วงเกินต่อจ้าแม่หนี่วา มารดาผู้สร้างโลก โดยมีจิตอกุศลคิดลามกต่อรูปปั้นที่สวยงามทำให้พระแม่หนี่วาทรงพิโรธและสาบแช่งให้พระเจ้าโจ้วหวางต้องพบกับหายนะ พระแม่ได้ส่งบริวาร คือ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง พร้อมด้วย ปีศาจไก่ฟ้าเก้าหัว และ ปีศาจพิณผีผาหยก เพื่อทำลายพระเจ้าโจ้วหวาง โดยปีศาจจิ้งจอกได้พบหญิงสูงศักดิ์หน้าตางดงามชื่อ “ต๋าจี” ปีศาจจิ้งจอกได้สังหารและเข้าสิง หลังจากนั้นจึงดำเนินแผนไปเป็นสนมคนโปรดผู้เป็นสาเหตุแห่งการล่มสลายของราชวงศ์ชาง โดยใช้มารยามัดใจโจ้วหวาง กำกับยุยงให้กลายเป็นผู้เจ้าสำราญ ถึงขั้นแต่งเพลงขับกล่อมการมีเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง มีการขุดสระใหญ่นำเหล้ามาเทให้เต็มและสร้างเกาะกลางสระนำเนื้ออบมาแขวนไว้เพื่อจะได้เสพสุขได้ตลอดเวลา พระเจ้าโจ้วหวางได้ฟุ่มเฟือบมากจนทำให้ราษฎรยากลำบาก ท้ายที่สุดนำไปสู่ความล่มสลายของราชวงศ์ โดยภายหลังกองทัพโจวนำโดยโจวหวู่หวางได้รับความช่วยเหลือจาก “เจียงจื่อหยา” เป็นแม่ทัพใหญ่ได้ยาตราทัพเข้าเมืองและสังหาร “ต๋าจี” แต่วิญญาณจิ้งจอกก็ได้หนีออกจากร่างไปได้ เชื่อว่าการบูชา จิ้งจอกเก้าห้างได้เกิดขึ้นในยุคนั้นด้วยความเชื่อในการเชื่อมต่อพลังงานกับปีศาจจิ้งจอกเพื่อให้บังเกิดผลที่ต้องการด้วยพลังแห่งหยินที่แข็งแกร่ง
มีความเชื่อว่าวิญญาณปีศาจจิ้งจอกที่ออกจากร่างของต๋าจี ได้เดินทางต่อไปยังแคว้นมคธประเทศอินเดียได้เข้าสิงสู่ร่างของ “ทิชยารักซา” ภรรยาคนสุดท้ายของจักรพรรดิอโศกมหาราชซึ่งได้แต่งงานก่อนพระเจ้าอโศกมหาราชจะเสียชีวิตเพียง 4 ปี พระนางเป็นผู้ที่มีความอิจฉาริษยาที่พระเจ้าอโศกมหาราชดูแลต้นโพธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงกับวางยาพิษให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ล้มตาย พระนางยังเป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายหลายพันคน หลังจากสร้างความวุ่นวายในประเทศอินเดีย วิญญาณจิ้งจอกก็เดินทางมาที่ประเทศจีนอีกครั้ง
ครั้งนี้ปีศาจจิ้งจอก ได้เข้าสิงสาวงามเลื่อลือในหน้าประวัติศาสตร์นามว่า “เปาสื้อ” พระสนมคนโปรดของพระเจ้าโจวโยว กษัตริย์ลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์โจว พระเจ้าโจวโยวเมื่อพบ “เปาสื้อ” ถึงกับเลิกกับพระมเหสี “เปาสือ” เป็นผู้หญิงที่มีลักษณะหน้าตารูปร่างสวยงามแต่นางกลับไม่เคยยิ้ม พระเจ้าโจวโยวพยายามทำทุกอย่างโดยทุ่มเทอย่างมากจนเกิดภาวะสงครามขึ้น จนกระทั่งพ่อตาของอดีตพระมเหสีทนไม่ได้จึงได้เคลื่อนทัพทำลายล้างราชวงศ์โจว เมื่อนั้นวิญญาณ “เป่าสือ” ก็ได้ออกจากร่างหลังสร้างความโกลาหลและเดินทางต่อไปที่ประเทศญี่ปุ่น
ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเธอเกิดขึ้นมาได้มีชื่อเรียกว่า Mikizume เพียงอายุ 7 ปี ก็สามารถท่องคำกลอนและเพลงญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย ชื่อเสียงของเธอทำให้จักรพรรดิญี่ปุ่นโทบะ จักรพรรดิ์องค์ที่ 24 ของประเทศญี่ปุ่นได้รับเลี้ยงในวังและตั้งชื่อใหม่ให้มีชื่อว่า Tamamo No Mae หรือ ทามาโมะ โนะ มาเอะ เธอได้เป็นผู้ทำให้จักรพรรดิ์ลุ่มหลงมัวเมา ให้ทำสงครามทำลายมนุษย์ด้วยกันอย่างมากมาย จนกระทั่งจักรพรรดิ์ได้ล้มป่วย จนต้องเชิญนักบวชมาทำพิธีปัดรังควาน นักบวชได้พบว่า ทามาโมะ โนะ มาเอะ เป็นวิญญาณจิ้งจอกเก้าหางแปลงกายมาเป็นมนุษย์ องค์จักรพรรดิ์ถึงกับส่งกองทหารจำนวนมากพร้อมนักรบซามูไรฝีมือดีตามไปต่อสู้และได้สังหารปีศาจจิ้งจอกลงได้สำเร็จ ได้มีการผนึกร่างของปีศาจจิ้งจอกที่เสียชีวิตเป็นหินที่มีชื่อเรียกว่า “หินฟุโยเคอิ” ที่เมืองนาสุ จังหวัดโทชิกิ ซึ่งไม่นานมานี้ในปี ค.ศ. 2022 ได้ปรากฏว่าหินดังกล่าวได้แตกเป็น 2 ส่วน ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีความรู้สึกว่าจะเกิดลางไม่ดีเพราะวิญญาณจิ้งจอกเก้าหางอาจจะออกมาทำร้ายผู้คนได้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและรัฐบาลญี่ปุ่นได้ถึงกับหารือเพื่อฟื้นฟูให้หินฟุโยเคอินี้ได้กลับมาเป็นสภาพปกติ
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจที่นำความเดือดร้อน ซึ่งปรากฏตัวทั้งประเทศญี่ปุ่น อินเดีย จีน และเกาหลี อิทธิพลของพลังปีศาจจิ้งจอกทำให้เกิดลัทธิที่บูชาปีศาจจิ้งจอก ในประเทศไทยก็ได้มีการนำคติความเชื่อของปีศาจจิ้งจอกมาเพื่อทำมนต์มหาเสน่ห์ ขอโชคลาภ การงาน ในรูปของวัตถุมงคลและของขลัง ซึ่งเชื่อว่าในประเทศไทยนั้นจะใช้ “พราย” ในการทำวัตถุที่เป็นรูปจิ้งจอกเก้าหาง ไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอกหรือเซียนจิ้งจอกที่แท้จริง แม้กระทั่งดาราจำนวนมากจากฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวัน ต่างเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเช่าบูชาเครื่องรางและขอพรจากจิ้งจอกเก้าหางในประเทศไทย ซึ่งจิ้งจอกเก้าหางที่เป็นเทพเจ้าความจริงแล้วกำเนิดและสถิตย์อยู่ที่ประเทศจีน ณ.เขาหลงหู่ซาน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างจากปีศาจจิ้งจอกโดยสิ้นเชิง
เจ้าแม่เซียนจิ้งจอกเก้าหาง ณ. เขาหลงหู่ซาน (เขามังกรเสือ)
ในความเชื่อ เจ้าแม่จิ้งจอก ท่านได้บรรลุเซียน จึงแตกต่างจากปีศาจจิ้งจอก ผู้ที่ศึกษาเรื่องราวของเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกจะมีความเชื่อว่า ท่านกำเนิดเริ่มต้นมาจากประเทศอินเดียในรูปของ “ฑากินี” เทพที่ปรากฏในความเชื่อของศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาลัทธิตันตระ ฑากินีเป็นเทพที่ฝึกฝนโยคะชั้นสูงในประเทศอินเดีย ถ้าเทียบกับในประเทศจีนสายศาสนาเต๋าเปรียบเท่ากับการฝึก “เน่ยกง” ปัจจุบันการบูชาเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกเก้าหางเป็นลัทธิที่ลอบบูชากันบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศจีน
ในปัจจุบันมีนักแสดง นักร้อง นักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากทำพิธีบูชาเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกเก้าหาง โดยอัญเชิญท่านมาจากเขาหลงหู่ซานและต้องมีขบวนการซับซ้อนทางเต๋าเพื่อทำพิธีอัญเชิญให้ท่านมาสถิตย์ช่วยเหลือในสิ่งที่ปรารถนา แต่วิธีในการอัญเชิญและบูชาจำเป็นต้องหาผู้รู้และผู้ที่ต้องการอัญเชิญเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกให้ช่วยเหลือดูแลก็จะต้องมีสัจจะความอดทนและรักษาคำสัจร่วมกับเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกโดยไม่บิดพริ้ว เพื่อป้องกันสิ่งที่คาดไม่ถึง แต่ถ้ามีจิตใจตั้งมั่นและเคารพอย่างแท้จริง เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก ผู้มีตบะและได้ให้สัจจะกับปรมาจารย์ที่จะช่วยเหลือศิษย์ผู้นับถือศาสนาเต๋า ท่านย่อมช่วยเหลือได้ในเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตให้ประสบความสำเร็จ สมปรารถนาได้อย่างง่าย โดยเฉพาะเรื่องลาภลอย หน้าที่การงาน เงินทองและความรัก
เจ้าแม่เซียนจิ้งจอกเก้าหางในประเทศไทยสามารถสักการะบูชาถวายขนม ดอกไม้ และเครื่องอามิสบูชาขอพรได้ที่ อารามไท่เสวียนก้วน อารามเต๋าแห่งแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดนครปฐม ใกล้วัดไร่ขิง ตามตำราเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกที่บูชาจะไม่ใช่รูปผู้หญิงที่มีลักษณะที่แต่งตัวในลักษณะเย้ายวน หรือโป๊เปลือย เจ้าแม่เซียนจิ้งจอกจากประเทศจีนจะเป็นเจ้าแม่ที่แต่งตัวสวยงามเรียบร้อย ตามตำราท่านสวมอาภรณ์สีเหลืองหรือสีขาวนวล เป็นรูปลักษณะของเทพเซียนประทับนั่งบนจิ้งจอกเก้าหาง บางแห่งได้อาศัยชื่อเสียงของเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกเน้นไปทางเสน่ห์ชู้สาวแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งเชื่อว่าเป็นพลังหยินที่มาจากวิญญาณที่ไม่ใช่มาจากเทพเซียน สำหรับท่านที่ต้องการขอพรเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกที่แท้จริงควรทราบที่มาขององค์เจ้าแม่เซียนจิ้งจอกที่มีเส้นทางบูชาจากศาสนาเต๋าที่แท้จริง ซึ่งต้องมีการอาราธนาจากศาลเจ้าแม่เซียนจิ้งจอกในภูเขาหลงหู่ซานและประกอบพิธีที่ถูกต้อง ซึ่งสาธุชนสามารถขอพรได้ทั้งการงาน ความรัก โชคลาภ และความสำเร็จได้อย่างปลอดภัยและสมปรารถนา
ผู้เขียนบทความ เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก
บทความเรื่องเจ้าแม่เซียนจิ้งจอก เรียบเรียงโดย ธนินพงษ์ ศุภพิทักษ์พงษ์ เพื่อถวายการบูชาแด่ เจ้าแม่เซียนจิ้งจอก (หูเซียน) และปฐมปรมาจารย์ทุกพระองค์